ถั่วเหลืองไม่ได้มีดีแค่โปรตีน เพราะประโยชน์ของถั่วเหลืองนั้นมีมากไปกว่านั้น จะว่าให้ประโยชน์ทั้งตัวเราเลยก็ได้
ถั่วเหลืองเป็นแหล่งโปรตีนจากพืชคุณภาพสูง มีไขมันและแคลอรี่ต่ำ มีไฟเบอร์และวิตามินแร่ธาตุที่จำเป็น ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย สามารถกินได้อย่างปลอดภัย เหมาะเป็นโปรตีนทดแทนในคนที่กำลังลดน้ำหนัก คนที่กินมังสวิรัติ หรือคนที่แพ้นมวัวและไม่สามารถได้รับโปรตีนจากนมวัวได้
ในถั่วเหลืองมีไอโซฟลาโวน (Isoflavones) ซึ่งได้แก่ เดดซีน (Daidzein) และเจนิสตีน (Genistein) ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ร่างกาย
ประโยชน์ของถั่วเหลือง
♥ สุขภาพดี
⊕ ให้โปรตีนเพื่อไปใช้ในการเจริญเติบโต เสริมสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ
⊕ ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคทางระบบหลอดเลือดและโรคหัวใจ เจนิสตีนในถั่วเหลืองช่วยยั้บยั้งการเกิดคราบไขมันสะสม หรือที่เรียกว่า พลาก (plaque) ที่จะไปเกาะบริเวณผนังหลอดเลือดและช่วยป้องกันไม่ให้เกล็ดเลือดเกาะตัวกันอุดตันในหลอดเลือด ซึ่่งเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจขาดเลือด
⊕ ถั่วเหลืองไม่มีคอเลสเตอรอล เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันในเลือดสูง และมีไฟโตสเตอรอล (Phytosterol) และซาโปนิน (Saponin) ที่ช่วยลดคลอเลสเตอรอล
⊕ ปรับปรุงสมดุลฮอร์โมนในผู้หญิง เนื่องจากสารสำคัญไอโซฟลาโวน เป็นไฟโตเอสโตรเจน (Phytoestrogen) คือโครงสร้างคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิง ช่วยลดอาการที่เกิดขึ้นจากวัยทองในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน เช่น อาการร้อนวูบวาบ หงุดหงิดง่าย
ถั่วเหลืองยังช่วยเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกอีกด้วย โดยจะไปช่วยลดการสูญเสียแคลเซียมในร่าางกาย เจ้าตัวเดดซีนและเจนิสตีนนั้นช่วยลดการสลายกระดูกได้
⊕ ถั่วเหลืองย่อยง่าย และมีไฟเบอร์ที่ช่วยในการขับถ่าย
♥ บำรุงผิวเริ่ด
⊕ ไฟโตเอสโตรเจนจากไอโซฟลาโวนช่วยบำรุงให้ผิวละเอียด เรียบเนียน เปล่งปลั่ง นุ่ม ชุ่มชื้น ตึงกระชับ ต้านการเกิดริ้วรอยที่เกิดขึ้นจากอายุที่มากขึ้น เพราะยิ่งอายุมากขึ้น ผิวหนังเราจะสูญเสียความยืดหยุ่นมากขึ้น
⊕ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
⊕ ในถั่วเหลืองมีวิตามินอี ซึ่งจะช่วยสร้างเซลล์ผิวใหม่และกำจัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายออกไป ผลที่ได้คือ จะทำให้ผิวหน้าดูเด็กและเปล่งปลั่ง
⊕ สามารถนำเมล็ดถั่วเหลืองมาบดเป็นสครับเพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวได้
♥ ลดน้ำหนักได้
⊕ ใช้เป็นโปรตีนทดแทนสำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักเพื่อไม่ให้ขาดสารอาหาร เนื่องจากถั่วเหลืองมีสารอาหารครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะเป็นแหล่งโปรตีนจำเป็นที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ได้เอง
คำถามสุด Hot !!!
Q: ถั่วเหลืองเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านมจริงหรือไม่ ?
กลับขึ้นไปที่หัวข้อก่อนหน้า เราบอกว่าในถั่วเหลืองมีไฟโตเอสโตรอเจนที่มีโครงสร้างคล้ายคลึงกับฮอร์โมนเอสโตรเจนในผู้หญิง
เนื่องจากมะเร็งเต้านมนั้นมีความไวต่อฮอร์โมนเอสโตรเจน จึงทำให้หลายคนกังวลว่าไฟโตเอสโตรเจนอาจจะทำหน้าที่แทนฮอร์โมนเอสโตรเจน ไปกระตุ้นความเสี่ยงให้เกิดมะเร็งเต้านมได้
แม้จะมีงานวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ในห้องทดลองจากการเพาะเลี้ยงเซลล์มะเร็ง และพบว่าถั่วเหลืองสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้ในหลอดทดลอง
แต่เมื่อทดลองในคนแล้วกลับให้ผลตรงกันข้าม นั่นคือถั่วเหลืองไม่ได้ทำให้ความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านมเพิ่มแต่อย่างใด แถมคนที่กินถั่วเหลืองในปริมาณเหมาะสมเป็นประจำสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมได้ด้วย รวมถึงคนที่หายจากมะเร็งแล้ว มันยังช่วงลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งซ้ำ
แถมงานวิจัยยังพบว่าถั่วเหลืองยังอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งชนิดอื่นด้วย เช่น มีการศึกษากับผู้ป่วยมะเร็งต่อมลูกหมาก พบว่าสามารถลดอัตราการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้
สรุป นมถั่วเหลือง ถั่วเน่า เต้าหู้ นัตโต เต้าเจี้ยว ซอสถั่วเหลือง ฯลฯ สามารถกินได้อย่างปลอดภัย
แล้วคนที่กำลังเป็นมะเร็งเต้านมอยู่ล่ะ กินได้ไหม ?
สำหรับคนที่เป็นมะเร็งเต้านมระยะแรกๆ ก็ยังสามารถกินถั่วเหลืองได้ แต่ควรควบคุมปริมาณให้ไม่มากเกินไป
แต่สำหรับคนที่เป็นมะเร็งเต้านมระยะหลัง (late stage) หรือเคยมีประวัติการฟันธงจากแพทย์ว่ามะเร็งของคุณเกี่ยวพันธ์กับไอโซฟลาโวน ควรปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจ
Q: ผู้ชายกินแล้วนมโต หรือทำให้เป็นตุ๊ด?
อันนี้ไม่จริง ตอนนี้ยังไม่มีงานวิจัยใดที่บอกว่าไฟโตเอสโตรเจนในถั่วเหลืองทำให้ผู้ชายที่กินแล้วจะนมโต หรือส่งเสริมความเป็นหญิงมากขึ้น แถมถั่วเหลืองยังช่วงป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากได้อีกด้วย