เคล็ดลับผิวงามผ่องตามแบบฉบับแม่หญิงอโยธยา

Published on2018/08/19

Updated on2018/08/23

Sensenia officialSensenia official

9+ Loves

“ดูผิวสินวลลอออ่อน

มะลิซ้อนดูดำไปหมดสิ้น

สองเนตรงามกว่ามฤคิน

นางนี้เป็นปิ่นโลกา

งามโอษฐ์ดังใบไม้อ่อน

งามกรดังลายเรขา

งามรูปเลอสรรขวัญฟ้า

งามยิ่งบุบผาเบ่งบาน”

 

อันขึ้นชื่อว่าเป็นหญิงย่อมต้องคู่กับความงามมาแต่โบราณกาล สังเกตได้จากวรรณคดีหลายๆ เรื่องได้มีการเอ่ยชมถึงความงามของหญิงสาว ดังเช่นบทชมนางศกุนตลาที่ขอหยิบยกมาเป็นฉากเปิดตัวให้กับบทความนี้

 

นักกวีได้แสดงให้เห็นว่าผิวของนางศกุนตลานั้นขาว นวลเนียนละเอียด  ถึงขั้นเมื่อเปรียบผิวของนางศกุนตลากับมะลิซ้อนแล้ว ทำให้มะลินั้นดูดำไปเลย แสดงว่าสมัยก่อนนั้นมีความนิยมในผิวพรรณที่ไม่แตกต่างจากปัจจุบัน

 

 

“ผู้หญิงทุกคนอยากสวย”ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย

 

แน่นอนว่าหญิงไทยในสมัยอยุธยานั้น ถึงแม้จะมีศึกสงครามบ่อยครั้ง แต่คราใดที่ว่างเว้นจากศึก สาวๆ ก็ไม่ละเลยจากการดูแลสุขภาพความงาม มีการบำรุงผิวมิได้ยิ่งหย่อนจากหญิงไทยในสมัยนี้แต่อย่างใด

 

แตกต่างก็เพียงสมัยก่อนนั้นผลิตภัณฑ์ที่ใช้บำรุงผิว เครื่องแป้ง หรือเครื่องประทินผิว ที่ได้มาจากธรรมชาติล้วนๆ ส่วนใหญ่คือสมุนไพรไทยพื้นบ้าน สามารถหาได้ง่าย ปลูกเองก็ได้

 

ด้วยความเป็นธรรมชาติจึงไม่ต้องกังวลเรื่องความไม่เป็นมิตรกับผิว ส่วนประสิทธิภาพคงไม่ต้องพูดถึงเพราะใช้กันมานมนาน บอกกันปากต่อปาก รุ่นต่อรุ่น มาหลายยุคหลายสมัย หลังๆ ได้มีการศึกษาวิจัยและมีหลักฐานยอมรับในสรรพคุณของสมุนไพรไทยมากขึ้น

 

น่าสนใจขึ้นมาแล้วใช่ไหม งั้นเรามารู้จักผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในแบบฉบับออเจ้ากันเลย

แถมตอนท้ายเรายังมีสูตรพอกผิวแบบไทยๆ มาแนะนำให้แม่หญิงไปลองบำรุงกันเองที่เรือนด้วย


ขมิ้น

 

 

เหง้าขมิ้น มีสรรพคุณช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่ มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อราและแบคทีเรียได้ ดังนั้นขมิ้นจึงช่วยการเกิดสิวและผื่นคัน ช่วยต้านการอักเสบของสิว ลดการเกิดรอยแผลจากสิว และยังทำให้แผลที่เกิดจากสิวสมานได้ไว ขมิ้นยังทำให้ผิวพรรณค่อยๆ กระจ่างใส ดูเปล่งปลั่งขึ้นมา


ไพล

 

 

เหง้าไพล มีคุณสมบัติใกล้เคียงกับขมิ้นด้านต้านเชื้อราและแบคทีเรีย ลดการอักเสบ ช่วยสมานแผล ลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำจากสิว ต้านการระคายเคือง มักนำมาบดผสมกับขมิ้นเพื่อเสริมฤทธิ์กัน สำหรับเหง้าไพลบด เมื่อนำมาทาตัวยังสามารถกันยุงได้ด้วย


ขิง

 

 

เหง้าขิง เป็นสมุนไพรที่พบว่าใช้มาอย่างนมนานหลายพันปีโดยมีจุดเริ่มต้นจากชาวจีนและอินเดีย จนเป็นที่แพร่หลาย ด้วยสรรพคุณทั้งบำรุงสุขภาพและบำรุงผิวพรรณ

 

สรรพคุณด้านความงามของขิง สามารถยับยั้งแบคทีเรีย ทำให้ยับยั้งการอักเสบของสิวและรอยดำจากสิวได้  คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ต้านการเกิดริ้วรอยได้

 

ขิงโขลกสามารถนำมาขัดผิวได้ด้วย โดยอาจนำมาผสมกับส่วนประกอบอื่นให้ขิงทำหน้าที่เป็นสครับก็ได้

 

ความแตกต่างระหว่าง ขมิ้น ขิง ไพล

ขนาด : ขิง=ไพล > ขมิ้น

ความเข้มของสีส้ม :  ขมิ้น > ไพล > ขิง


มะขามเปียก

 

 

ด้วยฤทธิ์ที่เป็นกรด AHA  จึงทำให้มะขามเปียกช่วยผลัดเซลล์ผิวได้ นอกจากนี้มะขามเปียกยังอุดมด้วยวิตามินหลายชนิด เช่น เอ บี ซี สำหรับวิตามินซีนั้นเป็นที่รู้ๆ กันว่า สรรพคุณของวิตามินซี ทำให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ ช่วนกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และชะลอความแก่

 

มะขามเปียกเป็นสมุนไพรที่ได้รับความนิยมในสปา และผสมในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวต่าง ๆ เช่น สบู่ ครีมขัดผิว มาส์ก เป็นต้น


น้ำซาวข้าว

 

 

น้ำซาวข้าว คือน้ำที่ได้จากการล้างข้าว ควรเป็นน้ำจากการล้างครั้งที่ 2 หรือ 3 เนื่องจากน้ำล้างในครั้งแรกอาจยังมีเศษฝุ่นผงปะปนมา

 

ประโยชน์ในการบำรุงผิวของน้ำซาวข้าวเป็นที่รู้จักแพร่หลายในแถบเอเซียตั้งแต่โบราณกาลทั้งในจีน ญี่ปุ่น รวมถึงแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างประเทศไทย

 

น้ำซาวข้าวอุดมด้วยอาหารผิว เช่นวิตามิน แร่ธาตุและกรดอะมิโน มี Furulic acid เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่ และ Allantoin ช่วยต้านการอักเสบ ทำให้ลดการเกิดสิวได้ ผลลัพธ์ที่ได้หลังจากล้างหน้าด้วยน้ำซาวข้าว คือ ใบหน้าที่เปล่งปลั่ง เรียบเนียนนุ่ม


ดินสอพอง

 

 

ดินสอพอง มาจากดินชนิดหนึ่งมีสีขาว เรียกว่า ดินมาร์ล

 

สรรพคุณลดการเกิดผื่นคัน ลดการอักเสบของสิว และช่วยลดสิวในคนผิวหน้ามันด้วย เนื่องจากมันสามารถดูดซับความมันบนใบหน้าได้ นอกจากนั้นเมื่อทาแล้วยังทำให้หน้าดูกระจ่างใสด้วย

 

สมัยก่อนนิยมนำดินสอพองมาทำเป็นแป้งโดยผสมกับเครื่องหอม นำมาทาหน้า ทาตัว ให้ความรู้สึกเย็นสบาย หรือนำมาขัดผิวโดยผสมกับส่วนผสมอื่นๆ เช่น น้ำมะขามเปียก น้ำผึ้ง ขมิ้นและไพล เป็นต้น

 

มั่นใจได้อย่างไรว่าดินสอพองที่เราซื้อมานั้นสะอาดดีพอแล้วหรือยัง ?

 

ไม่ใช่ว่าเราจะหาซื้อดินสอพองตามตลาดมาใช้ได้เลย เนื่องจากอาจมีเชื้อโรคอยู่ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดสิว หรือเกิดผื่นแพ้ก็ได้

 

มารู้จักกับ “ดินสอพองสะตุ”

การสะตุ หมายถึง วิธีทำให้ดินสอพองสะอาด ปราศจากเชื้อโดยความร้อน สมัยก่อนจะใส่ในหม้อดินปิดฝาแล้วนำไปตั้งไฟจนร้อน


น้ำผึ้ง

 

 

น้ำผึ้งอุดมไปด้วยแร่ธาตุ วิตามิน และกรดอะมิโนที่ดีต่อผิว ช่วยต้านอนุมูลอิสระซึ่งเป็นสาเหตุทำให้แก่ไว มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย รา และไวรัส ช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น และในน้ำผึ้งมี gluconic acid ช่วยผลัดเซลล์ผิวได้ด้วย


น้ำมันมะพร้าว

 

 

ในสมัยก่อน นอกจากน้ำมันมะพร้าวจะเป็นตัวยอดฮิตช่วยบำรุงเส้นผมให้นุ่ม เงางามแล้ว ยังนำมาทาผิวได้ด้วย สำหรับคนที่ผิวแห้งมากๆ น้ำมันมะพร้าวสามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้เป็นอย่างดี

 

น้ำมันมะพร้าวมีโมเลกุลเล็ก สามารถซึมเข้าผิวได้ดี ส่งผลให้ผิวเรียบเนียนนุ่ม และยังเหมาะในการทำความสะอาดอย่างล้ำลึกถึงรูขุมขน โดยสามารถนำน้ำมันมะพร้าวมาใช้แทน make up remover ในการลบเครื่องสำอางได้


แนะนำสูตรพอกผิวอย่างไทย

อ้างอิงจากกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก

 

ส่วนผสม

1. ผงไพล 2 ช้อนโต๊ะ

2. ผงขมิ้น 1 ช้อนโต๊ะ

3. ดินสอพองสะตุ 5 ช้อนโต๊ะ

4. น้ำผึ้งและนม (เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวแห้ง) หรือ น้ำมะขามเปียก (เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวมัน)

 

วิธีทำ

ผสม 1-3 ให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเติม 4 ลงไปผสมให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว อย่าให้เหลวจนเกินไป

 

วิธีใช้

ทาพอกตามผิวกายหรือผิวหน้าด้วยการลูบไล้เบา ๆ ไม่ต้องขัด พอกทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ควรทำ 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์

 

ข้อควรระวัง

ไม่ควรใช้ผู้ที่แพ้ส่วนผสมดังกล่าว

ระมัดระวังอย่าให้เข้าตา

 


 

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Copyright © HOKOSHA inc. All Rights Reserved.